ดูบทความความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สแตนเลส เริ่มต้นตั้งเเต่ขั้นตอนการผลิต
ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สแตนเลส เริ่มต้นตั้งเเต่ขั้นตอนการผลิต
สแตนเลสเป็นโลหะผสมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมก่อสร้าง งานตกแต่ง และงานวิศวกรรม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อน แข็งแรง และมีลักษณะสวยงาม บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการผลิต เกรดต่าง ๆ ประเภทของผิว และการใช้งานของสแตนเลส
------------------------------------------------------------
รู้หรือไม่? กว่าจะได้ “สแตนเลส” ที่แข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม ต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและใช้เทคโนโลยีระดับสูง วันนี้เราจะพาคุณไปดูเบื้องหลังของการผลิตสแตนเลสที่หลายคนอาจไม่เคยรู้!
เริ่มต้นจากวัตถุดิบคุณภาพสูง
สแตนเลสทำจาก เหล็ก + โครเมียม + นิกเกิล + ธาตุอื่น ๆ ซึ่ง “โครเมียม” เป็นตัวช่วยสร้างฟิล์มป้องกันสนิม ทำให้สแตนเลสมีความทนทาน
ภูมิสูงกว่า 1,600°C เพื่อให้โลหะผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
รีดและขึ้นรูปให้ได้ขนาดมาตรฐาน
เมื่อโลหะเย็นตัวลง จะถูกนำมารีดให้เป็น แผ่น, ท่อ, หรือเส้น ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
การปรับปรุงพื้นผิวให้เงางามและทนทาน
สแตนเลสต้องผ่านกระบวนการ อบและกัดกรด (Annealing & Pickling) เพื่อเพิ่มความเงางาม และกำจัดสารตกค้าง ก่อนจะถูกขัดเงาให้ได้พื้นผิวที่เรียบเนียน
ทดสอบคุณภาพ ก่อนออกสู่ตลาด
ทุกแผ่น / ท่อสแตนเลสต้องผ่านการทดสอบความแข็งแรง, ความทนทานต่อสนิม และมาตรฐานความปลอดภัย ก่อนนำไปใช้งานจริง
กระบวนการผลิตสแตนเลส
1.1 การหลอมและการหล่อ (Melting & Casting)กระบวนการผลิตสแตนเลสเริ่มจากการหลอมวัตถุดิบหลัก ได้แก่ เหล็ก (Iron), โครเมียม (Chromium), นิกเกิล (Nickel), โมลิบดีนัม (Molybdenum) และธาตุอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของสแตนเลส เมื่อโลหะถูกหลอมในเตาหลอมไฟฟ้า (Electric Arc Furnace - EAF) แล้ว จะถูกเทลงในแม่พิมพ์เพื่อขึ้นรูปเป็นแท่งหรือแผ่น
1.2 การรีดร้อน (Hot Rolling) และการรีดเย็น (Cold Rolling)
• รีดร้อน (Hot Rolling): ทำให้โลหะมีโครงสร้างที่หนาและแข็งแรง เหมาะสำหรับงานโครงสร้างและอุตสาหกรรมหนัก
• รีดเย็น (Cold Rolling): ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและบางลง เหมาะสำหรับงานตกแต่งที่ต้องการความเงางาม
1.3 การอบและการบำบัดผิว (Annealing & Pickling)
หลังจากการรีด สแตนเลสจะถูกอบที่อุณหภูมิสูงเพื่อให้เนื้อโลหะมีความแข็งแรงขึ้น และผ่านกระบวนการทำความสะอาดผิว (Pickling) เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการผลิต
เกรดของสแตนเลส
สแตนเลสแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ตามองค์ประกอบทางเคมีและโครงสร้างจุลภาค
2.1 ออสเทนนิติก (Austenitic Stainless Steel)
• ทนต่อการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นแม่เหล็ก
• มีโครเมียม 16-26% และนิกเกิล 6-22%
• เกรดยอดนิยม: 304, 316, 310
• การใช้งาน: งานครัว อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเคมี
ซึ่ง 304 ที่ทางเรา เทพรักษ์อินเตอร์ ก็มีจำหน่าย : แผ่นสแตนเลสผิว2B(ทูบี),แผ่นสแตนเลสผิวแฮร์ไลน์(HL),แผ่นสแตนเลสผิวด้านนัมเบอร์วัน(NO.1),แผ่นสแตนเลสผิวมิลเลอร์(เงา),แผ่นสแตนเลสผิวบีเอ(BA),ท่อกลมสแตนเลสผิวเงา,ท่อกลมสแตนเลสผิวด้าน,ท่อเหลี่ยมสแตนเลสผิวแฮร์ไลน์,ท่อเหลี่ยมสแตนเลสผิวเงา,เพลากลมสแตนเลส,เพลาเหลี่ยมสแตนเลส,ฉากรีดสแตนเลส,ฉากพับสแตนเลส,ท่อด้านอุตสหกรรม,เส้นแบนสแตนเลสผิวเงา,เส้นแบนสแตนเลสผิวด้าน
2.2 เฟอริติก (Ferritic Stainless Steel)
• ทนการกัดกร่อนได้ดีพอสมควร ไม่เป็นแม่เหล็ก
• มีโครเมียม 10.5-30% และไม่มีนิกเกิล
• เกรดยอดนิยม: 430, 409
• การใช้งาน: ท่อไอเสียรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
ทางเทพรักษ์ อินเตอร์ มีจำหน่าย เป็น แผ่นสแตนเลส430ผิวบีเอ(ฺBA),แผ่นสแตนเลส430ผิวทูบี(2B)
2.3 มาร์เทนซิติก (Martensitic Stainless Steel)
• มีความแข็งแรงสูง สามารถชุบแข็งได้
• มีโครเมียม 11-18% และคาร์บอนสูง
• เกรดยอดนิยม: 410, 420
• การใช้งาน: ใบมีด เครื่องมือแพทย์
2.4 ดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Steel)
• เป็นส่วนผสมของออสเทนนิติกและเฟอริติก มีความแข็งแรงสูง
• เกรดยอดนิยม: 2205, 2507
• การใช้งาน: อุตสาหกรรมเคมี โรงกลั่นน้ำมัน
2.5 สแตนเลสชุบแข็งด้วยการตกผลึก (Precipitation Hardening Stainless Steel - PH Stainless Steel)
• สามารถเพิ่มความแข็งแรงได้โดยการอบชุบ
• เกรดยอดนิยม: 17-4 PH
• การใช้งาน: อากาศยาน อุตสาหกรรมพลังงาน
แสดงความคิดเห็น